4 มีนาคม 2557

10 วิธี ที่แมวเหมียวแสดงความรัก

10 วิธี ที่แมวเหมียวแสดงความรักกับคุณ
1.เอาหัวมาชน (Bunting)ที่ บริเวณใบหน้าของแมวจะมีต่อมกลิ่น (scent gland) และจะปล่อยฟีโรโมนออกมาเพื่อแสดงความเป็นมิตร แสดงความรักและแสดงความคุ้นเคยระหว่างแมวด้วยกัน บ้านไหนเลี้ยงแมวหลายๆตัวคงเคยเห็นแมวที่สนิทๆกันชอบเอาหัวมาชนกันถูกันใช่ มั้ยคะ นั่นแหละค่ะการแสดงความรักในแบบของเหมียว ดังนั้นเวลาน้องแมวนั่งบนตักเราแล้วเอาหัวมาชนกับคางเราบ้าง จมูกเราบ้าง หรือแม้กระทั่งหน้าผากเราบ้างก็เป็นการแสดงความรักกับเราเช่นกันค่ะ
2.เอาแก้มมาถูไถ (Cheek rubbing)อย่าง ที่บอกไปแล้วว่าบริเวณใบหน้าของแมวมีต่อมกลิ่น การที่น้องแมวชอบเอาหน้าเอาแก้มมาถูไถกับเราก็เพื่อแสดงความรัก หรือแสดงว่าเค้ารู้สึกผ่อนคลายและคุ้นเคยกับเราหรือของสิ่งนั้นนั่นเอง 
3.การนวด (kneading)เป็น พฤติกรรมที่มาจากวัยเด็กตอนที่ยังดูดนมแม่อยู่ ในตอนที่น้องแมวยังเด็กนั้นเวลาดูดนมแม่จะเอาเท้าหน้าทั้งสองนวดๆกดๆบริเวณ เต้านมเพื่อให้น้ำนมไหล แมวที่โตแล้วหลายตัวก็ยังคงแสดงพฤติกรรมนี้อยู่เมื่อเจอของนุ่มๆนิ่มๆ หรือเมื่อรู้สึกพึงพอใจ แมวบ้านไหนชอบนวดเจ้าของนอกจากเราจะหายเมื่อยแล้วเจ้าเหมียวยังแสดงความรัก กับเราด้วยนะ
4.ส่งเสียงกรน (purring)คือ เสียงครืดๆคล้ายเสียงมอเตอร์ ส่วนใหญ่เราจะได้ยินเสียงนี้กันตอนน้องแมวกำลังนอนสบายใช่มั้ยล่ะคะ เสียงกรนแบบนี้แสดงถึงความสบายใจ ผ่อนคลายและมีความสุขของเจ้าเหมียวเค้าล่ะ แต่บางครั้งเสียงนี้ก็สามารถพบได้ในแมวที่ป่วยหรือบาดเจ็บได้อีกด้วยค่ะ
5.เลียตัวให้ (allogrooming)เป็น พฤติกรรมที่เจ้าของน่าจะสังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ ในบ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัวเวลาเราเห็นเค้าเลียตัวให้กันเราก็รู้ได้ทันทีใช่ มั้ยคะว่าเค้าแสดงความรักให้แก่กัน นอกจากการเลียตัวจะเป็นการแสดงความรักแล้วยังเป็นการสร้างกลิ่นให้แก่พวก เดียวกันและเป็นการช่วยลดความเครียดให้แก่กันด้วยค่ะ ใครที่โดนเจ้าเหมียวมาเลียหัวเลียหน้าให้อย่าไปดุไปตีเค้านะคะ เค้ากำลังแสดงความรักกับเราอยู่นะคะแม้ว่าจะต้องอดทนกับการรู้สึกจั๊กจี้ซัก หน่อย อิอิ
6.กระพริบตาใส่ (slow eye blink)หมอคงไม่ต้องอธิบายมากเนอะ เอาเป็นว่าถ้าน้องแมวที่บ้านทำแบบนี้ใส่ อย่ารอช้ารีบทำกลับเลยค่ะ กระพริบกันไปกระพริบกันมาสนุกดีนะคะ
7.นอนเหยียดตัวเมื่อ ใดก็ตามที่แมวรู้สึกผ่อนคลายเค้าจะยืดตัวเหยียดตัวออก แต่เมื่อใดที่เค้ารู้สึกไม่แน่ใจไม่มั่นใจในสิ่งรอบตัวเค้าจะนั่งห่อตัวเอา เท้าทั้งสี่เก็บไว้ใต้ตัวรวบหางแนบชิดติดกับตัว ดังนั้นถ้าน้องแมวมานอนยืดแข้งยืดขาใส่เราล่ะก็แสดงว่าเจ้าเหมียวกำลัง รู้สึกปลอดภัยและสบายใจ ยิ่งถ้านอนหงายท้องใส่แสดงว่ากำลังสบายและรู้สึกปลอดภัยเป็นอย่างมากเนื่อง จากท้องเป็นส่วนที่ถือว่าเปราะบางมากที่สุดของแมว แมวไม่ชอบให้ใครมาจับท้องจับพุง อันที่จริงท่านอนหงายนี้บางสถานการณ์ถือเป็นท่าที่พร้อมจะสู้นะคะ ลองสังเกตุเวลาแมวเล่นกันแรงๆดูค่ะ ตัวที่นอนหงายกำลังสื่อความหมายว่า ชั้นพร้อมจะสู้นะถ้าเธอเข้ามามากกว่านี้ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ล่ะ …. ก็เพราะว่าท่านี้เป็นท่าที่พร้อมจะออกอาวุธครบทุกส่วนไงล่ะคะ เท้ามาครบทั้งสี่เท้าเลย ดังนั้นก่อนจะเข้าใจว่าเหมียวแสดงความรักต้องดูสถานการณ์รอบข้างประกอบไปด้วย
8.ยกหางสูง (Upright tail flicks)หาง ของแมวเป็นอวัยวะที่ใช้แสดงอารมณ์ได้หลากหลาย เวลาที่แมวยกหางเหยียดสูงนั่นแปลว่าเค้ากำลังมีความสุข แมวบางตัวจะแกว่งปลายหางเล็กน้อยด้วย
9.มาอยู่ใกล้ๆ (physical contact)มา นั่งบนตัก นอนบนตัก นอนบนหมอน นอนบนอก มานั่งใกล้ๆ และที่หลายๆคนต้องเคยเจอแน่ๆก็คือมานั่งทับโนตบุคบ้าง คีย์บอร์ดบ้าง 55555 ใช่มั้ยล่าาา รู้แบบนี้แล้วก็จะได้หายสงสัยกันนะคะว่าทำไมแมวชอบมานั่งทับของที่เราจะใช้ เค้าแสดงความรักกับเรานั่นเองค่ะ
10.ส่งเสียงร้อง (vocalization)การ ส่งเสียงร้องของแมวมีมากมายหลากหลายแบบค่ะ แต่เสียงร้องที่แสดงความรักคือแบบที่ร้องเล็กๆเบาๆสั้นๆ มิ๊ว มิ๊ว เหมือนเป็นการทักทายนั่นแหละค่ะ ถ้าร้องยาวๆเสียงดังๆนั่นอาจจะหิวนะคะ แยกให้ออกว่าน้องแมวจะรักหรือน้องแมวจะหิวกันแน่ค่ะ บางคนบอกไม่รู้สิคะ เคยได้ยินแมวร้องแค่ตอนหิว 5555  

3 มีนาคม 2557

30 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแมว

      คนรักแมวทั้งหลายเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์ ที่น่าอัศจรรย์ แต่คุณรู้ไหมว่าแมวเป็นสัตว์ที่น่าทึ่งกว่าที่คุณคิดเสียอีก ถ้าคุณอ่านเรื่องน่ารู้สำหรับแมวนี้แล้วคุณจะรู้จักแมวของคุณได้ดีขึ้นและมี ความภาคภูมิใจมากขึ้นอีกที่ได้เป็นเจ้าของแมว
  • แมวมีสมองที่ใกล้เคียงกับคุณมากกว่าสุนัข สมองของคนและแมวมีส่วนของสมองที่แสดงออกถึงอารมณ์เหมือนกัน
  • แมวใช้เวลากว่า 30% ในช่วงที่เขาตื่นเลียขนทำความสะอาดตัวเอง
  • โดยเฉลี่ยแล้วแมวใช้เวลา 2 ใน 3 ของชีวิตไปกับการนอน นั่นหมายถึงแมวที่มีอายุ 12 ปี เขาตื่นเพียง 4 ปีเท่านั้น
  • แมวที่มีขนขาวบริสุทธิ์และตาสีฟ้า มักจะหูหนวก
  • การลูบไล้จะช่วยลดความดันโลหิตได้
  • เสียงครางในลำคอของแมวไม่ได้หมายความว่าแมวมีความสุขเสมอ บางครั้งทำเสียงครางเบาๆก็เพื่อปลอบใจตัวเองเมื่อรู้สึกเจ็บหรือหวาดกลัว
  • ถ้าแมวเพศเมียได้ผสมกับแมวเพศผู้หลายตัวในการเป็นสัดครั้งหนึ่ง ลูกแมวในครอกนั้นอาจมีคนละพ่อกันได้
  • แมวตั้งท้องประมาณ 62 - 65 วัน นับจากวันที่ผสมจนถึงวันคลอด
  • แมวมีความไวต่อแรงสั่นสะเทือนสูงมาก ดังนั้นแมวจะได้รับสัมผัสแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวได้ก่อนมนุษย์ 10 - 15 นาที
  • แมวตัวเมียจะเรียกกันทั่วไปว่า ควีนหรือมอลลี่ และแมวตัวผู้เมื่อทำหมันแล้วจะถูกเรียกว่า กิ๊บ
  • ฉี่ของแมวจะเรืองแสง เมื่อถูกส่งด้วยแสงแบล๊คไลท์
  • โดยปกติแมวจะไม่ร้องเสียงเหมืยวใส่แมวตัวอื่น จะร้องเสียงนี้ใส่คนเท่านั้น แต่จะทำเสียงครวญครางและเสียงขู่ใส่แมวตัวอื่น
  • แมวที่แพงที่สุดที่เคยทำสถิติไว้ คือแมวที่ทำโคลนนิ่ง จากแมงที่มีอายุมาก ซึ่งมีราคาถึง 50,000 เหรีญสหรัฐ
  • แมวเพศเมียมักถนัดใช้มือขวา ส่วนแมวเพศผู้มักถนัดซ้าย
  • แมวตัวเมียเป็นสัดได้หลายครั้งใน 1 ปี การเป็นสัดแต่ละครั้งนาน 4 - 7 วันหากได้รับการผสม ไม่เช่นนั้นแล้วการเป็นสัดก็จะนานวันไปอีก
  • แมวที่พบว่ามีอายุมากที่สุด คือ 38 ปีแมวส่วนใหญ่สุขภาพดีอยู่ได้ถึง 20 ปี
  • แมวสามารถลอดช่องว่างเล็กเท่าไหร่ก็ได้ตราบใดที่หัวผ่านได้เพราะแมวไม่มีกระดูกไหปลาร้า
  • แมวส่วนใหญ่ไม่ชอบน้ำเพราะขนของเขาไม่ สามารถป้องกันความร้อน-เย็นได้เมื่อเปียก แต่แมวบางพันธุ์ชอบว่ายน้ำมากเพราะขนของเขาค่อนข้างกันน้ำ
  • แมวชอบผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อาจเพราะผู้หญิงมีเสียงที่สูงกว่า
  • ไม่ควรเลี้ยงแมวด้วยปลาทูน่าติดต่อกันนานเกินไป เพราะปลาทูน่าไม่มีสารทอรีน และจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้
  • ถ้ามีน้ำให้กินได้อย่างพอเพียง แมวสามารถทนอยู่ในที่ร้อนๆได้ถึง 50 องศาเซลเซียส
  • แมวตอบสนองต่อเสียงหรือชื่ที่ลงท้ายด้วยเสียงสระ อี ได้ดีกว่าเสียงอื่น
  • แมวไม่มีต่อมเหงื่อ ยกเว้นที่อุ้งเท้า
  • แมวทำเสียงต่างๆได้ประมาณ 100 เสียง ในขณะที่สุนัขทำได้แค่ 10 เสียง    
  • ถ้าจะทำหันแมวตัวเมียควรจะทำก่อนที่จะเป็นสัดครั้งแรกหรือครั้งที่สอง จะช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งที่เต้านมและโรคทางเดินปัสสาวะ
  • ควรทำหมันแมวตัวผู้ก่อนที่เขาจะรู้จัก วิธีพ่นปัสสาวะใส่สิ่งของ เพราะส่วนใหญ่จะสามารถลดการทำเช่นนั้นได้ และยังช่วยลดปัญหาการทะเลาะกับแมวตัวผู้อื่นๆด้วย
  • แมวจะสร้างอาณาเขตของตัวเองโดยการถู ต่อมกลิ่นที่อยู่บนหน้า อุ้งเท้า และหาง กับตัวคนเรา เป็นการบอกให้แมวตัวอื่นรู้ว่าบุคคลนั้นเป็นสมบัติของเขา
  • แมวจะไม่ลงจากต้นไม้โดยเอาหัวลง แต่จะถอยหลังลงเพราะตำแหน่งของเล็บที่อุ้งเท้าไม่อำนวยให้เข้าทำเช่นนั้น
  • ถ้าแมวเอาหน้าเขาไปถูกับตัวคุณ แปลว่าเขายอมรับและแสดงความรักกับคุณ
  • ในยุโรปและอเมริกาเหนือ แมวสีดำถือว่าเป็นลางไม่ดี แต่ในประเทศอังกฤษและออสเตรเลียถือว่าให้โชค

 

       หลายคนที่เลี้ยงแมวคงจะคุ้นเคยกับอุปนิสัยซุกซนและขี้เล่นของเจ้าเหมียวทั้ง หลาย แต่คุณจะรู้ไหมนะว่า เจ้าเหมียวน้อยตาบ้องแบ๊วเหล่านี้ยังมีสิ่งที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับตัวพวกมัน อีกแยะ บางคนที่เลี้ยงแมวมานานยังเกิดข้อสงสัยว่า เอ๊ะ! ทำไมมันทำแบบนั้น อ๊ะ! มันทำแบบนี้อีกล่ะ วันนี้เรามีเรื่องแมว ๆ ที่คุณอาจไม่(เคย)รู้ 13 ข้อมาบอกกล่าวผู้เลี้ยงแมวทั้งหลาย รวมทั้งมือใหม่ที่อยากจะเลี้ยงแมวด้วยค่ะ ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย
1. แมวจะไม่ทักทายกันโดยการสัมผัสทางจมูก
       สาเหตุที่แมวที่ไม่รู้จักกันจะไม่ทักทายกันด้วยการเอาจมูกมาสัมผัสกัน นั่นก็เพราะ จมูก เป็นอวัยวะที่ติดเชื้อง่ายที่สุด เว้นเสียแต่ว่า แมวที่คุ้นกันอยู่แล้วแต่มีเหตุต้องจากกันไปสักช่วงหนึ่ง เมื่อพวกมันกลับมาพบกัน มันก็จะเอาจมูกมาสัมผัสกัน เพื่อจะช่วยให้จำได้ อีกทั้งแมวตัวหนึ่งจะรู้ได้ว่า แมวที่หายไปนั้น ไปที่ไหน ไปทำอะไรมานั่นเอง
2. บางครั้งเสียงครางของแมวบ่งบอกว่ามันกำลังป่วย
      ส่วนใหญ่แล้ว เรามักได้ยินเสียงครางของแมว ตอนที่มันกำลังรู้สึกสบาย หรือพอใจกับอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตาม บางครั้งเสียงครางที่มากเกินไปก็บ่งบอกได้ว่า พวกมันกำลังบาดเจ็บอยู่นะ ถ้าคุณลองฟังดี ๆ คุณก็สามารถแยกเสียงได้ว่า ตอนไหนมันกำลังสบาย หรือตอนไหนมันกำลังบาดเจ็บอยู่
3. แมวเริ่มส่งเสียงครางเมื่ออายุได้ 1 สัปดาห์
       เจ้าเหมียวน้อยทั้งหลายจะเริ่มส่งเสียงครางได้ เมื่อมันอายุได้ 1 สัปดาห์ และถ้าเราลองฟังเสียงครางของพวกมัน เราจะรู้สึกได้ว่า มันครางสม่ำเสมอและเป็นจังหวะด้วย นั่นก็เพราะพวกมันสามารถส่งเสียงครางได้สองทาง คือ ทั้งขณะหายใจเข้า และหายใจออกนั่นเอง
4. เสียงครางของแมวบอกช่วงอายุได้
       แมวที่อายุยังน้อย จะครางได้เสียงเดียว ไม่มีเสียงสูง-เสียงต่ำ อะไรทั้งนั้น  ในขณะที่แมวอายุมากขึ้นจะสามารถครางได้หลายสุ้มเสียง เสียงทุ้มบ้าง แหลมบ้าง ก้องบ้างแตกต่างกันไปตามอารมณ์ของมัน
5. เสียงครางของแมว เกิดขึ้นมาได้ยังไงนะ?
      จนถึงทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่รู้แน่ชัดถึงที่มาของเสียงครางครืด ๆ ในลำคอของเจ้าเหมียวว่ามันมาจากอวัยวะส่วนไหน แม้ว่าบางคนจะเชื่อว่า มันเกิดขึ้นในระบบหัวใจและหลอดเลือด มากกว่าที่จะเกิดขึ้นในลำคอก็ตาม แต่ปัจจุบันก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้
6. แมวเลือกเสียงครางเวลาจะเล่นกับเจ้าของ
      เวลาที่เจ้าเหมียวอยากจะส่งเสียงครางออดอ้อน ออเซาะ คลอเคลียกับเจ้าของ มันจะใช้โทนเสียงแหลม ๆ เล็ก ๆ เหมือนกับมันยังเป็นลูกแมวอยู่ แต่ถ้าพวกมันเล่นกับแมวด้วยกันเอง มันจะใช้โทนเสียงผู้ใหญ่นี่แหละ เพราะไม่ต้องไปออดอ้อนใครล่ะมั้ง
7. ช็อกโกแลต ของอันตรายสำหรับแมว
      ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบกินช็อกโกแลต ก็ขอให้เก็บช็อกโกแลตไว้ให้พ้นสายตาหรือจมูกของเจ้าเหมียวให้ดี เพราะช็อกโกแลตที่แสนอร่อยของเรานั้น กลับเป็นอันตรายต่อแมว เพราะเมื่อแมวกินช็อกโกแลตจะทำให้มันป่วยหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
8. แมวชอบงีบมากกว่านอนยาว
      ถ้าใครที่เลี้ยงแมว คงจะรู้ว่า แมวนั้นขี้เซาจริง ๆ เล่นกันอยู่ซักประเดี๋ยว หันไปอีกที มันก็แวบไปหาที่นอน แต่ความจริงแล้ว มันไปงีบต่างหากล่ะ เพราะแมวชอบงีบมากกว่านอนหลับไปเลย แต่ถ้ามันไปนอนหลับจริง ๆ และหลับลึกพอแล้วล่ะก็ มันก็จะฝัน เพราะการฝันช่วยให้มันผ่อนคลายความรู้สึกตื่นเต้นหรือตกใจกับเหตุการณ์ที่ มันพบเจอมาในวันนั้นนั่นเอง
9. แมวไม่ชอบสบตาใคร
      พฤติกรรมอย่างหนึ่งของแมวที่คุณอาจจะยังไม่รู้ ก็คือ แมวจะกระพริบตาและหรี่ตาก็เมื่อมันต้องมีเหตุให้สบตาโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างเช่น เวลามันเจอแมวที่ไม่รู้จักกัน แต่บังเอิญหันมาสบตากันเป๊ะ มันก็จะหรี่ตาแล้วก็หันไปทางอื่น หรือแม้กระทั่ง ถ้าคุณลองจ้องตามัน มันก็จะกระพริบตา หรี่ตา และก็เบือนหน้าไปทางอื่น อ่ะ.. ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองไปทำจ้องตามันดูนะ
10. จังหวะการเต้นของหัวใจน้องเหมียว
      โดยเฉลี่ยแล้ว อัตราการเต้นของหัวใจของแมวจะอยู่ที่ประมาณ 160-240 ครั้งต่อนาที แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับช่วงชีวิตของมันด้วย ซึ่งยิ่งมันมีอายุน้อยเท่าไหร่ อัตราการเต้นของหัวใจมันก็จะเร็วกว่าแมวที่มีอายุมากแล้ว
11. แมวไม่เข้าใจว่ามันกำลังถูกทำโทษ!
      บางทีเจ้าเหมียวที่คุณเลี้ยงน่ะ ก็ดื้อซะเหลือเกิน ฝนเล็บที่โซฟาตัวโปรดของคุณบ้างล่ะ วิ่งเล่นชนข้าวของกระจายบ้างล่ะ แต่ถึงแม้คุณจะตี จะทำโทษมันซักเท่าไหร่ มันก็ไม่เข้าใจหรอกนะ ดังนั้น ควรเปลี่ยนมาชมมันหรือให้รางวัลมันเวลามันทำตัวดี แทนการตีมัน น่าจะดีกว่านะ
12. เคี้ยวเนื้อดิบเสริมสร้างสุขภาพฟัน
      คุณรู้หรือไม่ว่า การให้เนื้อดิบ ๆ แก่เจ้าเหมียวไปแทะ ไปเคี้ยวเล่นทุกวัน เป็นการช่วยรักษาสุขภาพเหงือกและฟันให้อยู่ในสภาพดีเสมอนะจะบอกให้ เนื้อที่เหมาะแก่การเคี้ยวของเจ้าเหมียวนั้น ควรเป็นเนื้อสัตว์ปีก เนื้อวัว หรือเนื้อกระต่าย แต่อย่าลืมเอากระดูกออกให้หมดก่อนโยนให้มันล่ะ เพราะแมวไม่ใช่หมานะจ๊ะที่จะชอบแทะกระดูกน่ะ
13. แมวทนร้อนได้ดีจัง เพราะอะไรกันนะ?
      ถ้าคุณเคยตั้งข้อสงสัยว่า แมวของคุณทำไมถึงทนร้อนได้ดีเหลือเกิน โปรดจงรู้ไว้ว่า นั่นก็เพราะบรรพบรุษของแมวเมื่อครั้งก่อนนู้นเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเล ทรายมาโดยกำเนิดนั่นเอง

28 กุมภาพันธ์ 2557



แมวพันธุ์วิเชียรมาศ หรือแมวสยาม
ลักษณะประจำพันธุ์  
     แมววิเชียรมาศเป็นแมวที่ชาวต่างประเทศที่รู้จักกันในนามแมวสยาม (Siamese) โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษตั้งแต่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และเป็นที่รู้จักกันในแถบสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ลักษณะที่จำเพาะของแมววิเชียรมาศ คือ สีน้ำตาล
ลักษณะสีขน 
     ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด) 
ลักษณะของส่วนหัว  
     รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัวลักษณะของนัยน์ตา  
     นัยน์ตาสีฟ้า 
ลักษณะของหาง  
     หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว 
ลักษณะที่เป็นข้อด้อยของพันธุ์  
     ขนยาวเกินไป มีแต้มสีไม่ครบทั้ง 9 แห่ง แต้มสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่นๆ ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นเกินไป (เมื่อยืนขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) ของขอด หางหงิกงอ หางสดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
เรื่องทั่วไปของแมว
  
 
      "แมว" มีชื่อเรียกเป็นภาษาลาตินว่า Felis Catus หรือ Felis domestica ซึ่งชื่อนี้ก็คือชื่อวิทยาศาสตร์ของแมวนั่นเอง ชื่อทั้งสองนี้เรียกใช้กันมาเมื่อปี ค.ศ.1758 สำหรับ ชื่อสามัญในภาษาอังกฤษก็เรียกว่า Cats หรือ Dormestic cats หรือ House cats อยู่ในตระกูล Family Felidae อันดับ Order Carmivora ชั้น Class Mammalia ไฟลัม Phylum Chordata อาณาจักร Kingdom Animalia
สำหรับทางวิชาสาขาสิ่งมีชีวิตโบราณ ได้มีการตั้งชื่อให้ว่า Miacis แมวตระกูลนี้มีเกิดมาแล้วกว่า 50 ล้านปี และมีการวิวัฒนาการโดยมีสัตว์ลักษณะคล้ายแมว เรียกว่า Dinistis มีขึ้นมาเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ล้านปี มีขนาดของลำตัวและรูปร่างเท่ากับแมวป่าดูเหมือนผันของสุนัข ซึ่งแมวในยุคสมัยหนึ่งล้านปีก่อนยุคที่มนุษย์เพิ่งจะเกิด ขึ้นบนโลก ได้รับวิวัฒนาการมาจาก Dinistis มีฟันเหมือนพวกสุนัขและเสือ แต่ปัจจุบันสัตว์ชนิดนี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ต้นตระกูลของแมวแยกมาจากเสือไซบีเรียน ที่มีช่วงลำตัวนับตั้งแต่บริเวณจมูกมาถึงปลายหางยาวประมาณ 4เมตร หรือมากกว่า 13 ฟุต ผิวลำตัวบายดอกมีจุดสีน้ำตาลทึบ สำหรับแมวที่มีต้นตระกูลอยู่ในประเทศอินเดียและศรีลังกามีช่วงลำตัวยาว มากกว่า 60 เซนติเมตร หรือ 2 ฟุต ได้มีการรวบรวมสายพันธุ์แมวไว้ทั้งหมดไว้ถึง 36 ชนิด โดยจัดแมวทั้งหมดไว้ตระกูลเดียวกันกับ สิงโตและเสือดาว
     สำหรับแมวบ้านพันธุ์ต่างๆที่เลี้ยงกันอยู่ทุกวันนี้ถือเป็นแมวชนิดเดียวกันหมดโดยมีความสัมพันธ์ไกล้ชิดกับแมวป่า อันเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมเก่าแก่ของโลก

หางบอกอารมณ์.... แมวสามารถใช้หางในการสื่อสาร บ่งบอกถึงอารมณ์ของมัน 
(เช่น เดียวกันกับสัตว์ชนิดอื่นๆ)


ผ่อนคลาย
ถ้าหางม้วนห้อยลง แต่ส่วนปลายหางม้วนชี้ขึ้น:แสดงว่าแมวตัวนี้กำลังรู้สึกสบายและผ่อนคลาย
สนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ถ้าหางของมันยกขึ้นเล็กน้อยและม้วนเล็กน้อยอย่างนุ่มนวล:แสดงว่าแมวตัวนี้กำลังรู้สึกเริ่มที่จะสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
สนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ถ้าหางของแมวตั้งขึ้นแต่ปลายหางเอียงไม่ว่าจะเป็นการเอียงไปข้างหน้าหรือข้างหลัง:แสดงว่าแมวตัวนี้กำลังสนใจและมีความรู้สึกเป็นมิตรต่อสิ่งที่สนใจ
ถ้าหางตั้งตรงและปลายหางตั้งตรงในแนวดิ่ง:แสดงว่าแมวกำลังมีอารมณ์ดี รู้สึกเป็นมิตร เมื่อได้พบกัน
ถ้าหางของแมวตั้งตรงโดยที่หางหรือปลายหางกระดิกหรือสั้นอย่างนุ่มนวล:แสดงว่าแมวกำลังแสดงความชอบ ความรัก(showing affection).
ถ้าหางของแมวอยู่นิ่งๆ แต่จะมีการกระตุกเป็นครั้งคราว:แสดงว่าแมว รู้สึกว่าถูกรบกวนหรือมีความกังวล ทุกข์
ถ้าหางของแมวนิ่งแต่ปลายหางมีการกระตุกอย่างหนัก:แสดงว่าแมวกำลังรู้สึกโกรธมาก
ถ้าหางของแมวสะบัดอย่างรุนแรงจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง:แสดงว่าแมวกำลังโกรธ*
ถ้าหางแมวเหยียดตรงชี้ขึ้นแต่ขนที่หางลุกชัน:แสดงว่าแมวกำลังดุร้ายก้าวร้าว
ถ้าหางของแมวโค้งและขนตั้งชัน:แสดงว่าแมวอาจจะตรงเข้าทำร้ายได้ ถ้ามีการกระตุ้นเร้าเพิ่มอีก
ถ้าหางของแมวทอดตัวต่ำลงและลุกพองออก:แสดงว่าแมวกำลังกลัว
ถ้าหางของแมวยกขึ้นและขนลุกพองออก ทำให้ดูเหมือนมีหางขนาดใหญ่:แสดงว่าแมวอาจจะ มีความสุขไปกับการวิ่งไล่ขับกันไปรอบๆ
ถ้าหางของแมวลดตัวลงต่ำมาก บางครั้งอาจจะพบว่าซุกอยู่ระหว่างขาหลัง:อาจจะแสดงว่าแมวกำลังยอมแพ้
ถ้าหางของแมวทอดตัวอยู่ด้านใดด้านหนึ่งและแมวหมอบหรือย่อตัวอยู่หรือยกส่วนตะโพกสูงขึ้น:แสดงว่าแมวตัวเมียตัวนั้นพร้อมที่จะรับการผสมพันธุ์ mate.
ข้อสังเกตุ : ต้องคิดอยู่เสมอว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับแมว ณ สถานการณ์นั้นและสิ่งแวดล้อมที่แมวอยู่ อย่าดูอารมณ์ของแมวด้วยอาศัยท่าทางของหางของแมวแต่เพียงอย่างเดียว
ลักษณะของแมวตามราศีเกิด.... แมวก็เหมือนมนุษย์ที่แต่ละตัวจะมีลักษณะนิสัยแตกต่างกันออกไปตามราศีเกิด
*เกิดต่างราศี อุปนิสัยก็แตกต่างกันไป ลองมาดูสิว่า แมวที่เกิดในราศีต่างๆ มีลักษณะเป็นอย่างไร
-ราศีเมษ 21 มี.ค.-20 เม.ย. สัตว์เลี้ยงที่เกิดราศีนี้จะกล้าหาญ และน่ารัก เนื่องจากเป็นราศีแรกของ 12 ราศี แมวราศีเมษ ก็จะรักอิสระ หวงที่ ไม่ชอบอยู่รวมกับสัตว์อื่นๆในบ้าน

-ราศีพฤษภ 21 เม.ย.-21 พ.ค. สัตว์เลี้ยงราศีนี้มักจะรักเจ้าของอย่างสุดหัวใจ เพราะพวกมันต้องการความมั่งคง และอยากมีชีวิตที่ไม่โลดโพน เป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่อง ฝึกง่าย มีความอดทนสูง แมวราศีพฤษภ จะมีตาที่สวยงาม ถ้าเป็นตัวเมียก็สวยระดับโลกแต่ระหว่างอย่าเอาอกเอาใจมากเพราะจะเสียแมวเอา ง่ายๆ

-ราศีเมถุน 22 พ.ค . - 21 มิ.ย.แมวราศีนี้ เธอมักจะสังเกตเวลาเราออกคำสั่งและจะร้องเหมียวตอบมาราวกับว่า รับทราบ ข้อความทุกประการแมวเมถุน ถือได้ว่า มีสายตาดีเป็นพิเศษ และฝึกได้ง่าย

-ราศีกรกฏ 22 มิ.ย. - 20 ก.ค.แมวราศีกรกฎ มักจะขี้น้อยใจ มีอารมณ์อ่อนไหว ต้องการความสนใจเป็นพิเศษ ชอบเดินตามไปไหนมาไหน และจะกระวนกระวายมาก ถ้าคุณห่างจากสายตาสัก 5 นาที มักชอบเที่ยวกลางคืน และกับมานอนกลางวัน จึงอย่าวังว่า จะเป็นเพื่อนเล่นที่ดีได้

-ราศีสิงห์ 21 ก.ค. - 23 ส.ค.ราศีนี้เป็นสัตว์ที่ได้การยอมรับ มักจะภาคภูมิใจและไม่กลัวใคร มักจะคิดเสมอว่าตัวเองอยู่เหนือใครๆในบ้าน ใจดีและกล้าหาญ แถมยังมีนิสัยผู้นำ และมีลักษณะเช่นสิงโตพร้อมที่จะเสี่ยงตายเพื่อปกป้องคุณ แมวราศีนี้เปรียบเสมือนแมว 9 ชีวิต และส่วนใหญ่จะมีขนยาว ซ้ำยังสวยงามอีกด้วย

-ราศีกันย์ 24 ส.ค. - 23 ก.ย.ราศีนี้จะมีนิสัยจู้จี้พิถีพิถันเรื่องอาหารการกิน แต่อาจชอบแทะต้นไม้ในบ้านด้วย เผลอหน่อยก็ไปเลียน้ำในห้องน้ำช่างสังเกต เห็นใครกินอาหารไม่ได้ ฉะนั้น ใครมีของโปรดอะไรก็ซ่อนไว้ให้มิดชิดแล้วกัน และมีนิสัยรักสะอาดมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ใน การไซร้ขนทำความสะอาดตัวเอง เรื่องให้จับหนูก็ว่าวังเลย ถ้าจะให้เล่นกับหนูละพอไหว

-ราศีตุล 24 ก.ย. - 23 ต.ค.สัตว์เลี้ยงราศีนี้ดูสง่างามเป็นมิตรง่าย แต่ก็ขี้อ้อน สังคมเก่ง แต่อย่าปล่อยตามลำพังไม่งั้นปวดหัวแน่ แมวราศีตุล ชอบประจบประแจง และชอบตะลอนหาที่อยู่ที่สบาย จัดว่าเป็นแมวที่โรแมนติคมาก

-ราศีพิจิก 24 ต.ค. – 22 พ.ย.สัตว์เลี้ยงจะมีความรู้สึกรุนแรง หนักแน่น โกรธง่าย และชอบทำร้ายของรักของหวงของคุณ บ้างก็กัดแทะ แต่ก็เป็นนักสู้ แมวราศีพิจิกมักจะเป็นแมวที่ดูลึกลับ มีสัมผัสที่6 จะรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ แมวพิจิกนี้แหละคือแมวที่ชาวอียิปต์โบราณนับถือบูชา

-ราศีธนู 22 พ.ย. – 21 ธ.ค.สัตว์เลี้ยงกระชับกระเฉงเต็มไปด้วยพลัง อยู่นิ่งไม่ได้ชอบสร้างความบันเทิง และอารมณ์ขันในบ้าน แมวราศีธนูดูจะเป็นแมวแห่งโชคร้าย รักอิสระไม่ชอบสุงสิงกับใครแถมยังทำอะไรเปิดเผยไม่ปิดบัง

-ราศีมังกร 22 ธ.ค. – 20 ม.ค.เป็นสัตว์เลี้ยงที่แก่เกินวัย เรียกได้ว่าแก่ตลอดเวลาบ้างทีก็ชอบก่อกวนชอบเหม่อลอยเหมือนเป็นโรคประสาท แมวราศีมังกรเป็นแมวที่เห็นแก่ตัวไม่ชอบถูกขังและก็เป็นแมวที่สนใจแต่เรื่อง ของตัวเอง

-ราศีกุมภ์ 21 ม.ค -19 ก.พ.เป็นสัตว์เลี้ยงที่เปิดเผยสงบชอบอยู่ในความสนใจของคน ทรัพย์สินที่เป็นของเราก็จะถือเป็นของตัวเองด้วย แมวราศีกุมภ์เป็นเหมือนดารา ชอบโชว์ความสามารถแสดงออกเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่จะขี้โมโหและชอบทำอะไรแปลกๆ

-ราศีมีน 20 ก.พ. – 20 มี.ค.เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีสัญชาติญาณการอย่างรู้สูง แมวราศีมีนเป็นเจ้าแห่งแมวทั้งหลายคือเป็นแมวที่สูงส่งและก็อยากให้คุณดูแล มันเยี่ยงผู้สูงศักดิ์

Cr : xcut25