4 มีนาคม 2557

10 วิธี ที่แมวเหมียวแสดงความรัก

10 วิธี ที่แมวเหมียวแสดงความรักกับคุณ
1.เอาหัวมาชน (Bunting)ที่ บริเวณใบหน้าของแมวจะมีต่อมกลิ่น (scent gland) และจะปล่อยฟีโรโมนออกมาเพื่อแสดงความเป็นมิตร แสดงความรักและแสดงความคุ้นเคยระหว่างแมวด้วยกัน บ้านไหนเลี้ยงแมวหลายๆตัวคงเคยเห็นแมวที่สนิทๆกันชอบเอาหัวมาชนกันถูกันใช่ มั้ยคะ นั่นแหละค่ะการแสดงความรักในแบบของเหมียว ดังนั้นเวลาน้องแมวนั่งบนตักเราแล้วเอาหัวมาชนกับคางเราบ้าง จมูกเราบ้าง หรือแม้กระทั่งหน้าผากเราบ้างก็เป็นการแสดงความรักกับเราเช่นกันค่ะ
2.เอาแก้มมาถูไถ (Cheek rubbing)อย่าง ที่บอกไปแล้วว่าบริเวณใบหน้าของแมวมีต่อมกลิ่น การที่น้องแมวชอบเอาหน้าเอาแก้มมาถูไถกับเราก็เพื่อแสดงความรัก หรือแสดงว่าเค้ารู้สึกผ่อนคลายและคุ้นเคยกับเราหรือของสิ่งนั้นนั่นเอง 
3.การนวด (kneading)เป็น พฤติกรรมที่มาจากวัยเด็กตอนที่ยังดูดนมแม่อยู่ ในตอนที่น้องแมวยังเด็กนั้นเวลาดูดนมแม่จะเอาเท้าหน้าทั้งสองนวดๆกดๆบริเวณ เต้านมเพื่อให้น้ำนมไหล แมวที่โตแล้วหลายตัวก็ยังคงแสดงพฤติกรรมนี้อยู่เมื่อเจอของนุ่มๆนิ่มๆ หรือเมื่อรู้สึกพึงพอใจ แมวบ้านไหนชอบนวดเจ้าของนอกจากเราจะหายเมื่อยแล้วเจ้าเหมียวยังแสดงความรัก กับเราด้วยนะ
4.ส่งเสียงกรน (purring)คือ เสียงครืดๆคล้ายเสียงมอเตอร์ ส่วนใหญ่เราจะได้ยินเสียงนี้กันตอนน้องแมวกำลังนอนสบายใช่มั้ยล่ะคะ เสียงกรนแบบนี้แสดงถึงความสบายใจ ผ่อนคลายและมีความสุขของเจ้าเหมียวเค้าล่ะ แต่บางครั้งเสียงนี้ก็สามารถพบได้ในแมวที่ป่วยหรือบาดเจ็บได้อีกด้วยค่ะ
5.เลียตัวให้ (allogrooming)เป็น พฤติกรรมที่เจ้าของน่าจะสังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ ในบ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัวเวลาเราเห็นเค้าเลียตัวให้กันเราก็รู้ได้ทันทีใช่ มั้ยคะว่าเค้าแสดงความรักให้แก่กัน นอกจากการเลียตัวจะเป็นการแสดงความรักแล้วยังเป็นการสร้างกลิ่นให้แก่พวก เดียวกันและเป็นการช่วยลดความเครียดให้แก่กันด้วยค่ะ ใครที่โดนเจ้าเหมียวมาเลียหัวเลียหน้าให้อย่าไปดุไปตีเค้านะคะ เค้ากำลังแสดงความรักกับเราอยู่นะคะแม้ว่าจะต้องอดทนกับการรู้สึกจั๊กจี้ซัก หน่อย อิอิ
6.กระพริบตาใส่ (slow eye blink)หมอคงไม่ต้องอธิบายมากเนอะ เอาเป็นว่าถ้าน้องแมวที่บ้านทำแบบนี้ใส่ อย่ารอช้ารีบทำกลับเลยค่ะ กระพริบกันไปกระพริบกันมาสนุกดีนะคะ
7.นอนเหยียดตัวเมื่อ ใดก็ตามที่แมวรู้สึกผ่อนคลายเค้าจะยืดตัวเหยียดตัวออก แต่เมื่อใดที่เค้ารู้สึกไม่แน่ใจไม่มั่นใจในสิ่งรอบตัวเค้าจะนั่งห่อตัวเอา เท้าทั้งสี่เก็บไว้ใต้ตัวรวบหางแนบชิดติดกับตัว ดังนั้นถ้าน้องแมวมานอนยืดแข้งยืดขาใส่เราล่ะก็แสดงว่าเจ้าเหมียวกำลัง รู้สึกปลอดภัยและสบายใจ ยิ่งถ้านอนหงายท้องใส่แสดงว่ากำลังสบายและรู้สึกปลอดภัยเป็นอย่างมากเนื่อง จากท้องเป็นส่วนที่ถือว่าเปราะบางมากที่สุดของแมว แมวไม่ชอบให้ใครมาจับท้องจับพุง อันที่จริงท่านอนหงายนี้บางสถานการณ์ถือเป็นท่าที่พร้อมจะสู้นะคะ ลองสังเกตุเวลาแมวเล่นกันแรงๆดูค่ะ ตัวที่นอนหงายกำลังสื่อความหมายว่า ชั้นพร้อมจะสู้นะถ้าเธอเข้ามามากกว่านี้ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ล่ะ …. ก็เพราะว่าท่านี้เป็นท่าที่พร้อมจะออกอาวุธครบทุกส่วนไงล่ะคะ เท้ามาครบทั้งสี่เท้าเลย ดังนั้นก่อนจะเข้าใจว่าเหมียวแสดงความรักต้องดูสถานการณ์รอบข้างประกอบไปด้วย
8.ยกหางสูง (Upright tail flicks)หาง ของแมวเป็นอวัยวะที่ใช้แสดงอารมณ์ได้หลากหลาย เวลาที่แมวยกหางเหยียดสูงนั่นแปลว่าเค้ากำลังมีความสุข แมวบางตัวจะแกว่งปลายหางเล็กน้อยด้วย
9.มาอยู่ใกล้ๆ (physical contact)มา นั่งบนตัก นอนบนตัก นอนบนหมอน นอนบนอก มานั่งใกล้ๆ และที่หลายๆคนต้องเคยเจอแน่ๆก็คือมานั่งทับโนตบุคบ้าง คีย์บอร์ดบ้าง 55555 ใช่มั้ยล่าาา รู้แบบนี้แล้วก็จะได้หายสงสัยกันนะคะว่าทำไมแมวชอบมานั่งทับของที่เราจะใช้ เค้าแสดงความรักกับเรานั่นเองค่ะ
10.ส่งเสียงร้อง (vocalization)การ ส่งเสียงร้องของแมวมีมากมายหลากหลายแบบค่ะ แต่เสียงร้องที่แสดงความรักคือแบบที่ร้องเล็กๆเบาๆสั้นๆ มิ๊ว มิ๊ว เหมือนเป็นการทักทายนั่นแหละค่ะ ถ้าร้องยาวๆเสียงดังๆนั่นอาจจะหิวนะคะ แยกให้ออกว่าน้องแมวจะรักหรือน้องแมวจะหิวกันแน่ค่ะ บางคนบอกไม่รู้สิคะ เคยได้ยินแมวร้องแค่ตอนหิว 5555  

3 มีนาคม 2557

30 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแมว

      คนรักแมวทั้งหลายเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์ ที่น่าอัศจรรย์ แต่คุณรู้ไหมว่าแมวเป็นสัตว์ที่น่าทึ่งกว่าที่คุณคิดเสียอีก ถ้าคุณอ่านเรื่องน่ารู้สำหรับแมวนี้แล้วคุณจะรู้จักแมวของคุณได้ดีขึ้นและมี ความภาคภูมิใจมากขึ้นอีกที่ได้เป็นเจ้าของแมว
  • แมวมีสมองที่ใกล้เคียงกับคุณมากกว่าสุนัข สมองของคนและแมวมีส่วนของสมองที่แสดงออกถึงอารมณ์เหมือนกัน
  • แมวใช้เวลากว่า 30% ในช่วงที่เขาตื่นเลียขนทำความสะอาดตัวเอง
  • โดยเฉลี่ยแล้วแมวใช้เวลา 2 ใน 3 ของชีวิตไปกับการนอน นั่นหมายถึงแมวที่มีอายุ 12 ปี เขาตื่นเพียง 4 ปีเท่านั้น
  • แมวที่มีขนขาวบริสุทธิ์และตาสีฟ้า มักจะหูหนวก
  • การลูบไล้จะช่วยลดความดันโลหิตได้
  • เสียงครางในลำคอของแมวไม่ได้หมายความว่าแมวมีความสุขเสมอ บางครั้งทำเสียงครางเบาๆก็เพื่อปลอบใจตัวเองเมื่อรู้สึกเจ็บหรือหวาดกลัว
  • ถ้าแมวเพศเมียได้ผสมกับแมวเพศผู้หลายตัวในการเป็นสัดครั้งหนึ่ง ลูกแมวในครอกนั้นอาจมีคนละพ่อกันได้
  • แมวตั้งท้องประมาณ 62 - 65 วัน นับจากวันที่ผสมจนถึงวันคลอด
  • แมวมีความไวต่อแรงสั่นสะเทือนสูงมาก ดังนั้นแมวจะได้รับสัมผัสแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวได้ก่อนมนุษย์ 10 - 15 นาที
  • แมวตัวเมียจะเรียกกันทั่วไปว่า ควีนหรือมอลลี่ และแมวตัวผู้เมื่อทำหมันแล้วจะถูกเรียกว่า กิ๊บ
  • ฉี่ของแมวจะเรืองแสง เมื่อถูกส่งด้วยแสงแบล๊คไลท์
  • โดยปกติแมวจะไม่ร้องเสียงเหมืยวใส่แมวตัวอื่น จะร้องเสียงนี้ใส่คนเท่านั้น แต่จะทำเสียงครวญครางและเสียงขู่ใส่แมวตัวอื่น
  • แมวที่แพงที่สุดที่เคยทำสถิติไว้ คือแมวที่ทำโคลนนิ่ง จากแมงที่มีอายุมาก ซึ่งมีราคาถึง 50,000 เหรีญสหรัฐ
  • แมวเพศเมียมักถนัดใช้มือขวา ส่วนแมวเพศผู้มักถนัดซ้าย
  • แมวตัวเมียเป็นสัดได้หลายครั้งใน 1 ปี การเป็นสัดแต่ละครั้งนาน 4 - 7 วันหากได้รับการผสม ไม่เช่นนั้นแล้วการเป็นสัดก็จะนานวันไปอีก
  • แมวที่พบว่ามีอายุมากที่สุด คือ 38 ปีแมวส่วนใหญ่สุขภาพดีอยู่ได้ถึง 20 ปี
  • แมวสามารถลอดช่องว่างเล็กเท่าไหร่ก็ได้ตราบใดที่หัวผ่านได้เพราะแมวไม่มีกระดูกไหปลาร้า
  • แมวส่วนใหญ่ไม่ชอบน้ำเพราะขนของเขาไม่ สามารถป้องกันความร้อน-เย็นได้เมื่อเปียก แต่แมวบางพันธุ์ชอบว่ายน้ำมากเพราะขนของเขาค่อนข้างกันน้ำ
  • แมวชอบผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อาจเพราะผู้หญิงมีเสียงที่สูงกว่า
  • ไม่ควรเลี้ยงแมวด้วยปลาทูน่าติดต่อกันนานเกินไป เพราะปลาทูน่าไม่มีสารทอรีน และจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้
  • ถ้ามีน้ำให้กินได้อย่างพอเพียง แมวสามารถทนอยู่ในที่ร้อนๆได้ถึง 50 องศาเซลเซียส
  • แมวตอบสนองต่อเสียงหรือชื่ที่ลงท้ายด้วยเสียงสระ อี ได้ดีกว่าเสียงอื่น
  • แมวไม่มีต่อมเหงื่อ ยกเว้นที่อุ้งเท้า
  • แมวทำเสียงต่างๆได้ประมาณ 100 เสียง ในขณะที่สุนัขทำได้แค่ 10 เสียง    
  • ถ้าจะทำหันแมวตัวเมียควรจะทำก่อนที่จะเป็นสัดครั้งแรกหรือครั้งที่สอง จะช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งที่เต้านมและโรคทางเดินปัสสาวะ
  • ควรทำหมันแมวตัวผู้ก่อนที่เขาจะรู้จัก วิธีพ่นปัสสาวะใส่สิ่งของ เพราะส่วนใหญ่จะสามารถลดการทำเช่นนั้นได้ และยังช่วยลดปัญหาการทะเลาะกับแมวตัวผู้อื่นๆด้วย
  • แมวจะสร้างอาณาเขตของตัวเองโดยการถู ต่อมกลิ่นที่อยู่บนหน้า อุ้งเท้า และหาง กับตัวคนเรา เป็นการบอกให้แมวตัวอื่นรู้ว่าบุคคลนั้นเป็นสมบัติของเขา
  • แมวจะไม่ลงจากต้นไม้โดยเอาหัวลง แต่จะถอยหลังลงเพราะตำแหน่งของเล็บที่อุ้งเท้าไม่อำนวยให้เข้าทำเช่นนั้น
  • ถ้าแมวเอาหน้าเขาไปถูกับตัวคุณ แปลว่าเขายอมรับและแสดงความรักกับคุณ
  • ในยุโรปและอเมริกาเหนือ แมวสีดำถือว่าเป็นลางไม่ดี แต่ในประเทศอังกฤษและออสเตรเลียถือว่าให้โชค

 

       หลายคนที่เลี้ยงแมวคงจะคุ้นเคยกับอุปนิสัยซุกซนและขี้เล่นของเจ้าเหมียวทั้ง หลาย แต่คุณจะรู้ไหมนะว่า เจ้าเหมียวน้อยตาบ้องแบ๊วเหล่านี้ยังมีสิ่งที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับตัวพวกมัน อีกแยะ บางคนที่เลี้ยงแมวมานานยังเกิดข้อสงสัยว่า เอ๊ะ! ทำไมมันทำแบบนั้น อ๊ะ! มันทำแบบนี้อีกล่ะ วันนี้เรามีเรื่องแมว ๆ ที่คุณอาจไม่(เคย)รู้ 13 ข้อมาบอกกล่าวผู้เลี้ยงแมวทั้งหลาย รวมทั้งมือใหม่ที่อยากจะเลี้ยงแมวด้วยค่ะ ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย
1. แมวจะไม่ทักทายกันโดยการสัมผัสทางจมูก
       สาเหตุที่แมวที่ไม่รู้จักกันจะไม่ทักทายกันด้วยการเอาจมูกมาสัมผัสกัน นั่นก็เพราะ จมูก เป็นอวัยวะที่ติดเชื้อง่ายที่สุด เว้นเสียแต่ว่า แมวที่คุ้นกันอยู่แล้วแต่มีเหตุต้องจากกันไปสักช่วงหนึ่ง เมื่อพวกมันกลับมาพบกัน มันก็จะเอาจมูกมาสัมผัสกัน เพื่อจะช่วยให้จำได้ อีกทั้งแมวตัวหนึ่งจะรู้ได้ว่า แมวที่หายไปนั้น ไปที่ไหน ไปทำอะไรมานั่นเอง
2. บางครั้งเสียงครางของแมวบ่งบอกว่ามันกำลังป่วย
      ส่วนใหญ่แล้ว เรามักได้ยินเสียงครางของแมว ตอนที่มันกำลังรู้สึกสบาย หรือพอใจกับอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตาม บางครั้งเสียงครางที่มากเกินไปก็บ่งบอกได้ว่า พวกมันกำลังบาดเจ็บอยู่นะ ถ้าคุณลองฟังดี ๆ คุณก็สามารถแยกเสียงได้ว่า ตอนไหนมันกำลังสบาย หรือตอนไหนมันกำลังบาดเจ็บอยู่
3. แมวเริ่มส่งเสียงครางเมื่ออายุได้ 1 สัปดาห์
       เจ้าเหมียวน้อยทั้งหลายจะเริ่มส่งเสียงครางได้ เมื่อมันอายุได้ 1 สัปดาห์ และถ้าเราลองฟังเสียงครางของพวกมัน เราจะรู้สึกได้ว่า มันครางสม่ำเสมอและเป็นจังหวะด้วย นั่นก็เพราะพวกมันสามารถส่งเสียงครางได้สองทาง คือ ทั้งขณะหายใจเข้า และหายใจออกนั่นเอง
4. เสียงครางของแมวบอกช่วงอายุได้
       แมวที่อายุยังน้อย จะครางได้เสียงเดียว ไม่มีเสียงสูง-เสียงต่ำ อะไรทั้งนั้น  ในขณะที่แมวอายุมากขึ้นจะสามารถครางได้หลายสุ้มเสียง เสียงทุ้มบ้าง แหลมบ้าง ก้องบ้างแตกต่างกันไปตามอารมณ์ของมัน
5. เสียงครางของแมว เกิดขึ้นมาได้ยังไงนะ?
      จนถึงทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่รู้แน่ชัดถึงที่มาของเสียงครางครืด ๆ ในลำคอของเจ้าเหมียวว่ามันมาจากอวัยวะส่วนไหน แม้ว่าบางคนจะเชื่อว่า มันเกิดขึ้นในระบบหัวใจและหลอดเลือด มากกว่าที่จะเกิดขึ้นในลำคอก็ตาม แต่ปัจจุบันก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้
6. แมวเลือกเสียงครางเวลาจะเล่นกับเจ้าของ
      เวลาที่เจ้าเหมียวอยากจะส่งเสียงครางออดอ้อน ออเซาะ คลอเคลียกับเจ้าของ มันจะใช้โทนเสียงแหลม ๆ เล็ก ๆ เหมือนกับมันยังเป็นลูกแมวอยู่ แต่ถ้าพวกมันเล่นกับแมวด้วยกันเอง มันจะใช้โทนเสียงผู้ใหญ่นี่แหละ เพราะไม่ต้องไปออดอ้อนใครล่ะมั้ง
7. ช็อกโกแลต ของอันตรายสำหรับแมว
      ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบกินช็อกโกแลต ก็ขอให้เก็บช็อกโกแลตไว้ให้พ้นสายตาหรือจมูกของเจ้าเหมียวให้ดี เพราะช็อกโกแลตที่แสนอร่อยของเรานั้น กลับเป็นอันตรายต่อแมว เพราะเมื่อแมวกินช็อกโกแลตจะทำให้มันป่วยหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
8. แมวชอบงีบมากกว่านอนยาว
      ถ้าใครที่เลี้ยงแมว คงจะรู้ว่า แมวนั้นขี้เซาจริง ๆ เล่นกันอยู่ซักประเดี๋ยว หันไปอีกที มันก็แวบไปหาที่นอน แต่ความจริงแล้ว มันไปงีบต่างหากล่ะ เพราะแมวชอบงีบมากกว่านอนหลับไปเลย แต่ถ้ามันไปนอนหลับจริง ๆ และหลับลึกพอแล้วล่ะก็ มันก็จะฝัน เพราะการฝันช่วยให้มันผ่อนคลายความรู้สึกตื่นเต้นหรือตกใจกับเหตุการณ์ที่ มันพบเจอมาในวันนั้นนั่นเอง
9. แมวไม่ชอบสบตาใคร
      พฤติกรรมอย่างหนึ่งของแมวที่คุณอาจจะยังไม่รู้ ก็คือ แมวจะกระพริบตาและหรี่ตาก็เมื่อมันต้องมีเหตุให้สบตาโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างเช่น เวลามันเจอแมวที่ไม่รู้จักกัน แต่บังเอิญหันมาสบตากันเป๊ะ มันก็จะหรี่ตาแล้วก็หันไปทางอื่น หรือแม้กระทั่ง ถ้าคุณลองจ้องตามัน มันก็จะกระพริบตา หรี่ตา และก็เบือนหน้าไปทางอื่น อ่ะ.. ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองไปทำจ้องตามันดูนะ
10. จังหวะการเต้นของหัวใจน้องเหมียว
      โดยเฉลี่ยแล้ว อัตราการเต้นของหัวใจของแมวจะอยู่ที่ประมาณ 160-240 ครั้งต่อนาที แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับช่วงชีวิตของมันด้วย ซึ่งยิ่งมันมีอายุน้อยเท่าไหร่ อัตราการเต้นของหัวใจมันก็จะเร็วกว่าแมวที่มีอายุมากแล้ว
11. แมวไม่เข้าใจว่ามันกำลังถูกทำโทษ!
      บางทีเจ้าเหมียวที่คุณเลี้ยงน่ะ ก็ดื้อซะเหลือเกิน ฝนเล็บที่โซฟาตัวโปรดของคุณบ้างล่ะ วิ่งเล่นชนข้าวของกระจายบ้างล่ะ แต่ถึงแม้คุณจะตี จะทำโทษมันซักเท่าไหร่ มันก็ไม่เข้าใจหรอกนะ ดังนั้น ควรเปลี่ยนมาชมมันหรือให้รางวัลมันเวลามันทำตัวดี แทนการตีมัน น่าจะดีกว่านะ
12. เคี้ยวเนื้อดิบเสริมสร้างสุขภาพฟัน
      คุณรู้หรือไม่ว่า การให้เนื้อดิบ ๆ แก่เจ้าเหมียวไปแทะ ไปเคี้ยวเล่นทุกวัน เป็นการช่วยรักษาสุขภาพเหงือกและฟันให้อยู่ในสภาพดีเสมอนะจะบอกให้ เนื้อที่เหมาะแก่การเคี้ยวของเจ้าเหมียวนั้น ควรเป็นเนื้อสัตว์ปีก เนื้อวัว หรือเนื้อกระต่าย แต่อย่าลืมเอากระดูกออกให้หมดก่อนโยนให้มันล่ะ เพราะแมวไม่ใช่หมานะจ๊ะที่จะชอบแทะกระดูกน่ะ
13. แมวทนร้อนได้ดีจัง เพราะอะไรกันนะ?
      ถ้าคุณเคยตั้งข้อสงสัยว่า แมวของคุณทำไมถึงทนร้อนได้ดีเหลือเกิน โปรดจงรู้ไว้ว่า นั่นก็เพราะบรรพบรุษของแมวเมื่อครั้งก่อนนู้นเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเล ทรายมาโดยกำเนิดนั่นเอง